preloader

Blog

ห้ามนำฟันปลอมอันเดิมมาใช้ หลังจากฝังรากฟันเทียมแล้ว !

ห้ามนำฟันปลอมอันเดิมมาใช้ หลังจากฝังรากฟันเทียมแล้ว !

การรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม เป็นการทดแทนฟันธรรมชาติสูญเสียไป หลายคนประสบปัญหานี้จากพฤติกรรมที่ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่ส่งผลให้เกิดฟันผุและการดูแลรักษาความสะอาดที่ไม่ดี อาจจะส่งผลให้เกิดการสูญเสียฟันได้ ดังนั้นการรักษาความสะอาดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดของการรักษาสุขภาพช่องปากและฟัน ในสมัยก่อน ปัญหาการสูญเสียฟันนิยมใช้วิธีการสวมใส่ฟันปลอม เพื่อแก้ไขปัญหาทดแทนฟัน แต่ด้วยวิธีการดังกล่าวยังเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ยังไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด เพราะเป็นการสวมใส่ฟันปลอมเพื่อทดแทนฟันและสามารถถอดออกได้ ซึ่งยังส่งผลให้กระดูกฟันละลายได้ แต่การแก้ไขปัญหาด้วยการรักษาผ่าตัดฝังรากฟันเทียม เป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด พร้อมทั้งยังช่วยให้เกิดสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี ซึ่งในปัจจุบันการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการรักษา ซึ่งทำให้การรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยทำให้การรักษามีผลการรักษาที่แม่นยำมากขึ้นด้วย ด้วยนวัตกรรม CT Scan ที่สามารถใช้การเอ็กซเรย์ตรวจดูความหนาแน่นของกระดูกขากรรไกรที่จะใช้ในการรองรับรากฟันเทียมว่ามีความหนาแน่นที่จะสามารถเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมได้หรือไม่ เพราะถ้าหากผู้เข้ารับการรักษามีกระดูกที่ไม่เพียงพอต่อการรองรับรากฟันเทียม ทันตแพทย์จะแนะนำให้ทำการปลูกกระดูกฟันเสียก่อน

ในกรณีที่ผู้เข้ารับการรักษาเคยผ่านการใส่ฟันปลอมมาแล้ว หลายคนสงสัยว่าเมื่อทำการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมแล้ว สามารถกลับไปสวมใส่ฟันปลอมอันเดิมได้หรือไม่ ตอบเลยว่า ฟันปลอมอันเดิมของผู้เข้ารับการรักษา ไม่ควรนำมาใช้ จนกว่าจะได้รับการปรับฟันเรียบร้อยแล้ว การใส่ฟันปลอมเร็วเกินไป อาจทำให้การรักษาใช้เวลานานขึ้น หรือเกิดผลกระทบที่ไม่ดีได้ รวมไปถึงอาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ รวมไปถึงอาจจะทำให้เหงือกได้รับการบาดเจ็บหรือเป็นแผลได้ แล้วทำให้มีอาการบวมแดงได้ เพราะการนำฟันปลอมอันเดิมมาสวมใส่ ภายหลังจากการฝังรากฟันเทียมแล้ว แน่นอนฟันย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากมีรากฟันเทียมเพิ่มเติมมา การใส่ฟันปลอมอันเดิมจะทำให้สวมใส่ไม่ได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามในเรื่องของการปฏิบัติตัวภายหลังจากการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมแล้ว ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและบาดแผลที่ได้จากการผ่าตัดให้ดีและถูกต้อง เพราะถ้าหากมีการรักษาความสะอาดที่ไม่ดี จะทำให้บาดแผลเกิดการอักเสบ ติดเชื้อได้ ยิ่งภายหลังจากรับประทานอาหารแล้ว ผู้เข้ารับการรักษาควรบ้วนปากด้วยน้ำอุ่น ผสมเกลือ เพื่อทำความสะอาดช่องปากและบาดแผลที่ได้จากการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ป้องกันการอักเสบ ติดเชื้อภายในบาดแผล และการสะสมของเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก โดยทันตแพทย์จะแนะนำให้ผู้เข้ารับการรักษางดแปรงฟันเพื่อทำความสะอาดช่องปากก่อน เพราะอาจจะทำให้เกิดการกระทบกระเทือนและขนแปรงอาจจะเข้าไปสัมผัสบาดแผลได้ และจะทำให้เกิดการอักเสบหรืออาการปวดขึ้นได้

นอกจากนี้ผู้เข้ารับการรักษาไม่ควรไปยุ่งกับบาดแผลที่ผ่าตัดฝังรากฟันเทียม หลีกเลี่ยงการใช้นิ้วมือและผ้าเช็ดหน้า หรือไม่จิ้มฟันแตะบริเวณบาดแผลเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้เกิดการอักเสบและอาจจะติดเชื้อได้ และผู้เขารับการรักษาไม่ควรรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีความร้อนหรือเย็นจัดในวันแรกที่ทำการผ่าตัด ผู้เข้ารับการรักษาควรรับประทานอาหารเหลวหรืออาหารกึ่งเหลว เพื่อป้องกันการไม่ให้เศษอาการเข้าไปในแผล และในวันต่อๆไปให้รับประทานอาหารอ่อนๆได้ ถ้าท่านยังมีฟันแท้เหลืออยู่และไม่มีปัญหาในการรับประทานอาหาร โดยทันตแพทย์จะแนะนำให้ผู้เข้ารับการรักษากลั้วปากด้วยน้ำเกลืออุ่น หรือ น้ำยาบ้วนปาก วันละ 2 ครั้ง เช้า และ กลางคืน เริ่มตั้งแต่คืนแรก ใช้น้ำยาครึ่งฝา ไม่ต้องทำให้เจือจาง อมไว้ 60 วินาที ทำต่อเนื่องทุกวัน จนหมดขวด