preloader

Blog

สุขภาพช่องปากไม่ดี เสี่ยงโรคมะเร็งในช่องปาก

สุขภาพช่องปากไม่ดี เสี่ยงโรคมะเร็งในช่องปาก

เชื่อว่าหลายๆท่านคงทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่า สุขภาพช่องปากไม่ว่าจะเป็นเหงือก ฟัน หรือ ลิ้น ต่างมีความสำคัญในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก เพราะ ช่องปากเป็นส่วนสำคัญในการรับประทานอาหาร พูดพูดคุยสนทนา รวมถึงในด้านบุคลิกภาพเบื้องต้นเพื่อเสริมความมั่นใจ และทราบไหมว่าช่องปากยังเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆมากมาย ซึ่งหากว่าไม่ทำความสะอาดแบคทีเรียเหล่านั้นก็อาจจะเกิดการทำลายฟันของท่านได้โดยรวดเร็ว และแค่นั้นยังไม่พอหากว่าท่านไม่ได้รับการรักษาปล่อยทิ้งไว้ อาจจะส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรงมากมาย รวมถึงเป็นหนึ่งในต้นเหตุหลักๆของ “มะเร็งช่องปาก” อีกด้วย

ในวันนี้ทางด้าน Idol Smile Dental Clinic จะขอพาท่านผู้ชมมาทำความรู้จักกับ มะเร็งช่องปาก ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และ สามารถตรวจเช็คได้อย่างไรบ้าง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

มะเร็งช่องปากคืออะไร ?

มะเร็งช่องปาก หรือ มะเร็งในช่องปาก คือการที่มีก้อนเนื้อร้าย เกิดขึ้นที่บริเวณในช่องปาก โดยจะสามารถเกิดขึ้นได้หลายส่วน เช่น ริมฝีปาก ลิ้น กระพุ้งแก้ม เหงือก ลิ้นไก่ เพดานปากซึ่งสามารถเกิดได้ทั้งเพดานอ่อนและเพดานแข็ง พื้นปากใต้ลิ้น ต่อมทอนซิล กระดูกขากรรไกร รวมถึงส่วนบนของลำคอ แต่อวัยวะส่วนที่มักพบได้บ่อยว่าเป็นโรคมะเร็งช่องปากก็คือ ลิ้น และ พื้นปากใต้ลิ้น

จากข้อมูลการศึกษาของสถาบันวิจัยทันตกรรมและกะโหลกศีรษะและใบหน้าแห่งชาติ หรือ National institute of Dental and Craniofacial Research ได้มีการระบุไว้ว่า มะเร็งช่องปากนั้นสามารถเป็นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่จากการสำรวจวิจัยอย่างละเอียดจะพบว่า ผู้ชายที่มีอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป เป็นโรคมะเร็งในช่องปากมากผู้หญิงถึง 3 เท่า อาจเป็นเพราะผู้ชายมีปัจจัยเสี่ยงที่มากกว่า เช่น การชอบสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และการละเลยการตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ

 

สาเหตุของการเป็นมะเร็งในช่องปาก ?

ต้องขอบอกเลยว่าในขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดโรคมะเร็งในช่องปาก แต่จากการศึกษาวิจัยทำให้ทราบถึงปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งในช่องปาก เช่น การสูบบุหรี่ พฤติกรรมการรับประทาน รวมถึงสุขภาพช่องปากไม่ดีเรื้อรัง เป็นต้น แต่จริงๆแล้วภาวะเสี่ยงยังมีอีกหลายอย่างมากมายโดยมีดังต่อไปนี้

– การตากแดดเป็นระยะเวลานานๆ มีส่วนในการทำให้เกิดโรคมะเร็งที่ริมฝีปาก เพราะ ประมาณ 30% ของผู้ป่วยมะเร็งริมฝีปาก มีประวัติการสัมผัสแสงแดดเป็นระยะเวลานาน

– รับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ร้อนจัดเป็นประจำ เนื่องจากว่า ความร้อนของอาหารหรือเครื่องดื่มจะเป็นส่วนสำคัญในการส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุในช่องปาก และเมื่อถูกสร้างความระคายเคืองเป็นประจำก็อาจจะส่งผลให้เยื่อบุในช่องปากเกิดเซลล์มะเร็งได้

– การติดเชื้อไวรัสบางชนิดเช่น เชื้อไวรัสเอสพีวี ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกันกับมะเร็งปากมดลูก

– การมีสุขภาพในช่องปากไม่ดี เช่น ฟันผุเรื้อรัง

– เนื้อเยื่อบุในช่องปาก เป็นแผลเรื้อรังจากฟันเก ฟันบิ่น หรือฟันหัก ที่ทำให้เกิดขอบคมบาดเนื้อเยื่อในช่องปากซ้ำๆ ส่งผลให้เกิดแผลเรื้อรังเป็นระยะเวลานาน

– การใส่ฟันปลอมที่หลวม ก่อให้เกิดการระคายเคืองเรื้อรัง และมีส่วนในการกักเก็บสะสมสารก่อมะเร็งได้ง่าย

– การกินหรือเคี้ยว หมาก พลู ยาฉุน ยาเส้น

– การรับประทานผักผลไม้ที่น้อยเกินไปทำให้ร่างกายและช่องปากขาดสารอาหารบางชนิด

– สูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน

 

วิธีการตรวจมะเร็งช่องปากเบื้องต้น ด้วยตนเอง ?

ต้องขอบอกเลยว่าท่านสามารถจะตรวจสอบความผิดปกติเบื้องต้นได้ โดยหากว่าพบความผิดปกติของเนื้อเยื่อหรืออวัยวะต่างๆของช่องปาก เช่น ฝ้าขาว ฝ้าแดง มีก้อนเนื้อในช่องปากหรือลำคอ หรือ เป็นแผลในช่องปากที่ไม่หายใน 3 สัปดาห์ โดยหากว่าพบอาการดังที่กล่าวมาเหล่านี้ ให้ทำการพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุโดยเร็วที่สุด โดยมีวิธีเช็คเบื้องต้นคือ

– ดึงริมฝีปากบนขึ้น เพื่อตรวจดูเยื่อบุส่วนบนและเหงือกด้านนอก

– ยกริมฝีปากบนเพื่อตรวจดูริมฝีปากบน

– ยกริมฝีปากด้านข้าง เพื่อตรวจดูกระพุ้งแก้มและเหงือกด้านใน

– ดึงริมฝีปากด้านล่างลง เพื่อตรวจดูเยื่อบุส่วนล่างและเหงือกด้านนอก

– แหงนหน้าอ้าปากให้กว้างเพื่อตรวจดูเพดานปาก

– อ้าปากให้กว้าง กดลิ้นเพื่อตรวจดู ลิ้นไก่ ต่อมทอนซิล และ เพดานอ่อน

– ยกลิ้นขึ้นเพื่อตรวจดูลิ้นด่านล่าง และพื้นปากใต้ลิ้น

 

หากว่าพบความผิดปกติไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งก็ตาม ให้รีบเข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสอบ เนื่องจากว่าหากยิ่งทำการรักษาได้รวมเร็วจะยิ่งทำให้การรักษานั้นง่ายขึ้นและปลอดภัยสูงตามไปด้วย