preloader

Blog

ทันตกรรมเด็ก น่ารู้ เผยเคล็ดลับ ดูแลช่องปากวัยซน ด้วยการสอนแนวคิด !

ทันตกรรมเด็ก น่ารู้ เผยเคล็ดลับ ดูแลช่องปากวัยซน ด้วยการสอนแนวคิด !

ทันตกรรมเด็ก สำหรับเด็กที่ยังเล็กมากๆ แต่เริ่มมีฟันขึ้นมาเพื่อให้เคี้ยวสิ่งต่างๆได้บ้างแล้ว แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือ เด็กเล็กๆ กล้ามเนื้อมือที่ใช้ในการหยิบจับนั้นยังไม่สามารถทำได้ดีเพียงพอ จึงไม่สามารถหยิบจับแปรงสีฟันขึ้นมาทำความสะอาดช่องปากของตนเองได้ หรืออาจจะทำได้แต่ไม่สะอาดเพียงพอ ผู้ปกครองที่เลี้ยงดูเด็กเล็ก จึงต้องใส่ใจในเรื่องแปรงฟัน ในระยะแรกๆอาจจะแปรงฟันให้ โดยฝึกให้เด็กแปรงฟันหน้ากระจก เพื่อได้เห็นการแปรงฟัน และจดจำวิธีขั้นตอนการแปรงฟัน
ซึ่งเชื่อว่าหลายๆบ้านที่มีเด็กเล็กๆ มีปัญหาและอาจจะวิตกอย่างมากในเรื่องสุขภาพฟันและช่องปากของเจ้าตัวเล็ก เพราะในระยะแรกๆนั้นเด็กๆจะไม่ยอมให้เราแปรงฟันแต่โดยดีแน่นอน
ในวันนี้ Idol Smile Dental Clinic เข้าใจถึงปัญหาตรงนี้เป็นอย่างยิ่ง จากประสบการจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์กว่า 15 ปี จึงอยากจะมาเผยเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของเจ้าตัวเล็กให้มีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยจากฟันผุ ดังต่อไปนี้

เคล็ดลับดูแลสุขภาพช่องปากที่ถูกวิธี ทันตกรรมเด็ก
– สิ่งแรกที่เป็นปัจจัยหลักในการทำให้ฟันของเด็กๆเกิดการผุ และสุขภาพปากไม่สะอาดนั่นก็คือ การบริโภคอาหาร หรือขนม ซึ่งผู้ปกครองครัวแก้ที่ปลายเหตุนั่นก็คือ การควบคุมการบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม และขนม เพราะอาหารบางชนิดนั้นมีผลโดยตรงกับฟันเมื่อทำการรับประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารประเภทแป้ง และน้ำตาล และขนมผสมแป้งที่สามารถย่อยสลายกลายเป็นกรดได้ ดังเช่น ขนมปัง ขนมเค้ก และขนมอบกรอบที่มีขายตามร้านค้าทั่วไป และเครื่องดีที่มีกรดไม่เหมาะสมกับสุขภาพฟันและช่องปากของเด็กเล็กๆ เช่น น้ำอัดลม เป็นต้น ที่กล่าวมาเหล่านี้หากหลีกเลี่ยงได้ควรหลีกเลี่ยง หรือให้รับประทานแบบควบคุม และควรแปรงฟันให้สะอาดในทุกครั้ง
– ขั้นตอนต่อไปควรสอนแนวคิดที่ถูกต้องเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร และการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟัน ซึ่งเป็นไปได้ยากมากที่จะให้เด็กๆหลีกเลี่ยงรับประทานสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขนั่นก็คือ ขนมหวาน ผู้ปกครองจึงควรอย่างยิ่งที่จะปลูกฝังแนวคิดหลังรับประทานอาหาร หรือขนม ให้ทำการบ้วนปากให้สะอาด เพื่อขจัดคราบเศษอาหารออกส่วนหนึ่ง หรือเป็นไปได้ให้สอนเรื่องการแปรงฟันหลังจากรับประทานอาหารหรือขนมจะถือว่าเป็นการดีอย่างยิ่ง
– ผู้ปกครองควรเลือกของรับประทานเล่นให้เด็กๆ เช่น ถั่ว หรือผลไม้ เพราะ ถั่วกับผลไม้นั้นนอกจากจะช่วยเรื่องสุขภาพร่างกายของเด็กๆแล้ว ยังไม่มีอันตรายต่อฟันและช่องปากของเด็กๆอีกด้วย จึงถือว่าการบริโภคถั่วและผลไม้เป็นของว่างในทุกมื้อนั้น เป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์อันนี้ผู้ปกครองที่เลี้ยงดูก็ควรฝึกตัวเอง ให้ทำเป็นประจำเพื่อให้เด็กๆมีพฤติกรรมการรับประทานของว่าเหล่านี้มากกว่าขนมหวาน นั่นเอง
– พยายามปลูกฝังแนวคิดให้เด็กๆรักสุขภาพอนามัยในช่องปากอย่างถูกวิธี ซึ่งการรักษาอนามัยในช่องปากที่ดีที่สุดก็คือ การแปรงฟัน โดยท่านผู้ปกครองอย่าพึ่งคำนึงถึงความถูกต้องมากนักในเด็กวัยนี้ แต่เน้นให้รู้จักการแปรงฟันอย่างไร หรือวิธีใดก็ได้ให้ช่องปากและฟันสะอาดที่สุด และจึงค่อยๆสอนวิธีที่ถูกต้อง แต่อย่าให้ตรึงเครียดจนเกินไป เพราะเด็กวัยนี้อาจจะกลัวหรือทำให้ไม่ชอบการแปรงฟันก็เป็นได้
– เลือกใช้แปรงสีฟันที่เหมาะสม โดยให้เลือกที่มีขนแปรงนุ่มพิเศษ หรือเลือกขนแปรงให้เหมาะกับช่วงวัยตามลำดับ แปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เป็นประจำวันละ 2 ครั้ง คือ เช้าและก่อนนอน โดยในช่วงแรกพยายามคุมน้ำหนักมือให้เด็กๆ ได้รู้ว่าควรลงน้ำหนักมือเท่าไหร่ และไม่ควรลงน้ำหนักมือมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้เหงือกของเด็กๆ เป็นแผลและอักเสบได้
– สิ่งสำคัญที่สุดที่ผู้ปกครองหลายๆคนอาจจมองข้ามนั่นก็คือ พยายามพาลูกไปพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจเช็คสุขภาพของช่องปากและฟันอยู่เสมออย่างน้อยสุดคือทุกๆ 6 เดือน เพราะว่าหากช่องปากของเด็กๆมีปัญหา ทันตแพทย์ได้ทำการวินิจฉัยและแก้ปัญหาตั้งแต่ที่ยังเป็นไม่มาก อย่างปล่อยทิ้งไว้นานเพราะอาจจะทำให้เด็กๆฟันผุได้นั่นเอง

ทั้งหมดนี้ก็คือขั้นตอนง่ายๆ ที่ให้คุณผู้ปกครองสามารถทำให้เด็กๆรักและรับรู้ถึงเหตุผลที่ต้องแปรงฟัน หรือรักษาสุขภาพช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ ซึ่งจะทำให้เด็กๆห่างไกลจากโรคต่างๆในช่องปากที่เกิดขึ้นกับเด็กๆได้บ่อยครั้งนั่นเอง